ครูเจ Jay Veerayano กับสถาบัน Grammy Vocal Studio

 3 ก้าวแห่งความสำเร็จในอาชีพนักร้อง นักดนตรี by Jay Veerayano

on October 17 | in Blogs | by | with ไม่ให้ใส่ความเห็น

 
เฟรม ศุภัคชญา หนึ่งในศิลปินที่หมั่นฝึกฝนตัวเองอยู่ตลอดเวลาจนประสบความสำเร็จในเวทีThe Star
เฟรม ศุภัคชญา หนึ่งในศิลปินที่หมั่นฝึกฝนตัวเองอยู่ตลอดเวลาจนประสบความสำเร็จในเวทีThe Star
การฝึกฝนอยู่เสมอจะช่วยให้เราก้าวไปใกล้กับความสำเร็จในอาชีพนักร้อง นักดนตรีมากขึ้น
การฝึกฝนอยู่เสมอจะช่วยให้เราก้าวไปใกล้กับความสำเร็จในอาชีพ นักร้อง นักดนตรีมากขึ้น

3 T’s แห่งความสำเร็จในอาชีพนักร้อง

17ปี ในอาชีพการเป็นครูสอนร้องเพลงของครูเจ มักจะมีคำถามที่หลายๆคนชอบถามอย่างเช่นว่า เรียนร้องเพลงไปแล้วจะเป็นนักร้องได้หรือไม่ หรือว่าต้องเรียนนานเท่าไหร่ถึงจะเก่งขึ้น หรือว่าถ้าจะเอาดีในด้านนี้ต้องทำอย่างไรบ้าง ทุกคำถามมีคำตอบครับ เราสามารถเอาแนวคิดนี้ไปประยุกต์ในการใช้ชีวิตให้ประสบความสำเร็จได้ ครูเจจะพูดถึงแนวคิดในการสอนของครูเจ คือ The Three T’s of success คือสามสิ่งในการก้าวไปสู่ความสำเร็จ

T ที่หนึ่งคือ Talent (พรสวรรค์พิเศษ) การจะเป็นนักร้องสิ่งนี้ช่วยได้มากหากว่าเราเป็นคนที่มีพื้นฐานเสียงดี ร้องเพลงเพราะ มีMusicality สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ส่วนใหญ่ติดตัวมาแต่เกิดและสะสมมาเรื่อยๆในชีวิต เพราะฉะนั้นเป็นสิ่งที่แข่งกันได้ยาก  เหมือนกับที่เราเกิดมามีหน้าตา ส่วนสูงไม่เหมือนกัน เสียงตามธรรมชาติก็ไม่เหมือนกัน ลองจินตนาการว่าเราไปว่ายน้ำแข่งกับ Michael Phelps ที่เกิดมาแล้วสรีระเอื้ออำนวยให้กับการว่ายน้ำมากเป็นพิเศษ เราก็คงจะไปเทียบด้วยไม่ไหว เพราะสรีระเราไม่ได้ช่วยขนาดนั้น แต่ถ้าจะถามว่าถ้าเราจะว่ายน้ำให้เก่งขึ้นให้เร็วขึ้นได้ไหม ทุกคนจะคงจะมีคำตอบที่เหมือนกันว่า ได้ ถ้าเราหมั่นฝึกฝน การร้องเพลง หรือเรียนดนตรีก็เหมือนกัน ครูเจอยากจะให้ทุกคนเข้าใจในเสียงของตัวเองที่มีความเป็นเอกลักษณ์ส่วนตัว และอย่าเอาไปเปรียบกับคนอื่นว่าทำไมเสียงเรามันไม่เพราะเหมือนคนอื่น ถ้าเราจะเปรียบเทียบกับ เอามาเปรียบเทียบกับตัวเองดีกว่า ว่าเราสามารถทำให้มันดีขึ้นได้ไหม ซึ่งตรงนี้จะแหละจะทำให้เราก้าวสู่ขั้นที่สอง

Tenacity (ความมุ่งมั่น)

ตัว นี้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดให้ 3 T’s ของครูเจ Tenacity แปลว่าความมุ่งมั่น ไม่ย่อท้อ และ ความสม่ำเสมอ สิ่งนี้ขาดแทบไม่ได้เลยนะครับสำหรับการดำรงชีวิตให้ได้ตามที่เราฝันไว้ สิ่งนี้จะช่วยให้Talentเราดีขึ้น เพราะเป็นการฝึกฝนและทำอย่างต่อเนื่อง คนที่มีTalentดีแต่ไม่มีความมุ่งมั่นพอก็อาจจะล้มเลิกเป้าหมายไปก่อนจะได้ โอกาสมา หรือมีTalent แต่ไม่ฝึกฝนจนตามคนอื่นไม่ทัน สิ่งนี้อยู่ในใจครูเจตลอด เนื่องจากว่าเป็นสิ่งที่เราสามารถควบคุมได้ เราสามารถเอาใจสู้และสร้าง Talent เราให้แข็งแรงขึ้นได้ สิ่งนี้เกิดขึ้นกับตัวครูเจเอง เมื่อสมัยเด็กๆครูเจก็ไม่ได้ร้องเพลงเก่งอะไร เคยโดนเพื่อนๆบอกว่าให้เลิกฝันที่จะเอาดีด้านดนตรีเถอะเพราะเพื่อนๆกลัวว่า เราจะไปไม่รอด แต่ครูเจเป็นคนหัวดื้อไม่ยอมทำตามแล้วก็มาดูว่าตัวเองต้องพัฒนาตรงไหนบ้าง และเราก็ต้องไม่อายที่จะยอมรับในสิ่งที่เราไม่รู้เพื่อที่เราจะได้แก้ไขให้ ถูกจุด ไปหาเรียนเพิ่มเติม และหาจุดเด่นของเราและทำให้ตรงนั้นมันแข็งแรงเพื่อที่เราจะได้มีเอกลักษณื ที่เด่นชัดขึ้น เพราะเมื่อโอกาสมา เราจะได้อยู่ในสภาวะที่พร้อมที่สุด สิ่งนี้ก็จะเป็นอีก T หนึ่งก็คือ

Timing (จังหวะและโอกาส)

T ตัวนี้เป็นสิ่งที่เราควบคุมได้ยากที่สุดใน 3 T’s เพราะว่ามันมักจะไม่ได้ขึ้นอยู่กับเรา แต่เราสามารถที่จะสร้างโอกาสหรือเอาตัวเราเองไปอยู่ในสถานการณ์ที่จะเกิด โอกาสดีๆให้กับ

เราได้  ลองคิดดูนะครับ ว่าถ้าเราหมั่นคอยฝึกฝนตัวเอง และสร้างสภาวะแวดล้อม ของตัวเราเองให้อยู่ในสถานที่ๆที่มักจะกิดโอกาสขึ้น เช่นถ้าเรารู้จักnetworkของคนในวงการเพลง คอยติดตามข่าวสารการประกวดต่างๆ สร้างฐานแฟนเพลงของเรา แล้วเวลามีใครกำลังทำโปรเจคอะไรถ้าเรารู้ก่อนเราก็มีโอกาสมากกว่าคนที่ ไม่รู้ หรือเวลามีโอกาสมาแต่เราไม่ได้เตรียมตัวซ้อมอะไรมาเลยแต่ว่าเราเป็นคนที่ ฝึกฝนอยู่เสมอ

อยู่แล้วเราก็ไม่ต้องเหนื่อยมาก เพราะเรามีประสบการณ์สะสมอยู่แล้ว ตรงนี้ก็จะทำให้เราสามารถออดิชั่นได้ดี

หลายๆสิ่งที่ครูเจพูดถึงในBlogนี้ก็มาจากประสบการณ์การสอนและการใช้ชีวิตในถนนสาย

ดนตรีนี้นะครับ สรุปได้ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ Tenacity เพราะสามารถช่วยสร้าง Talent และ Timing ให้ กับตัวเราได้ นักเรียนของครูเจที่ประสบความสำเร็จได้เป็นศิลปิน แทบจะทุกคนนั้นฝึกฝนตัวเองอย่างสม่ำเสมอและอยู่ใกล้กับโอกาสเสมอ ครูเจหวังว่าทุกคนที่อ่านBlogนี้แล้วจะเก็บเอาไปคิดและนำเอาประยุกต์ใช้กับ ชีวิตประจำวัน นะครับ Blog หน้าจะพูดเรื่องเทคนิคการร้องเพลงต่อนะครับ :)

Jay Veerayano

related posts

Comments are closed.

« »